- คำว่าไร้เงินสด ไม่ใช่ว่าไปเที่ยวแล้วอดอยากปากแห้ง ดื่มน้ำประทังชีวิต ก็ใช้ตังค์แหละ แต่เปลี่ยนรูปแบบจากมานั่งกรีดแบงค์นับเศษเหรียญ มาเป็นใช้บัตรแทน
- ซึ่งทริปนี้จะมาดูการพัฒนา และความเจริญก้าวหน้าอีกขั้นของประเทศสิงคโปร์!! ที่สามารถใช้บัตรใบเดียวจ่ายตลอดทริป สะดวกสบาย (และกลับมาใช้หนี้ทีหลังแทน)
- โดยทางเพจได้รับเกียรติไปเยี่ยมชม ออฟฟิศ Visa ที่สิงคโปร์ ร่วมกับเพจ,สื่อต่างๆ สาระแน่นๆ เช่น Finstreet, LDA World, The Standard, ฐานเศรษฐกิจ, Brand Buffet และ แบไต๋ (ในใจแอบคาดหวังว่าจะมีใต้เตียงดาราไปซะหน่อย)
- ซึ่งนอกจากเนื้อหาแน่ๆแล้ว ยังมีภาพบรรยากาศออฟฟิศVisa ที่สิงคโปร์มาฝากด้วย

- ใช่แล้ว ครั้งนี้มาซื้อป๊อปคอร์นที่สิงคโปร์ โดยลองใช้บัตรแบบติ๊ด-จ่ายซะหน่อย
- ภาษาอังกฤษเรียกว่า Contactless คือจ่ายเงินแบบไม่ต้องสัมผัส ลดความยุ่งยาก
- แม้ว่าที่ไทยก็มีระบบนี้บ้าง แต่ยังไม่เต็มรูปแบบเท่าที่สิงคโปร์ จะมีอะไรอีกบ้างไปดูรูปถัดไปได้เลย

- จะเห็นว่าร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ ที่สิงคโปร์ ก็รองรับการชำระเงินรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์หมดแล้ว

- ขึ้นรถไฟฟ้าที่สิงคโปร์ เมื่อก่อนหยอดเหรียญ หรือไปตามล่าหาบัตร EZ-link
- จะบอกว่าไม่ต้องแล้ว เอาบัตรเครดิตที่มีสัญลักษณ์คล้ายๆ Wifi หรือสัญลักษณ์ Contactless ติ๊ดจ่ายได้เลย เดี๋ยวระบบจะคำนวนตอนออกเองว่าเท่าไหร่ก็จะหักยอดจากตรงนั้น ไม่ต้องไปต่อคิวซื้อบัตรเติมเงินเลย

- ซึ่งระบบต่างๆเหล่านี้ได้มีต้นแบบมาจากลอนดอนเมื่อ5ปีก่อน
- จนตอนนี้ที่ลอนดอน จะขึ้นเรือ จ่ายค่าที่จอดรถ ก็เอาบัตรติ๊ดจ่ายได้หมดเลย
- โดยหัวเมืองใหญ่ๆ ก็เป็นระบบนี้กันหมดแล้ว เช่น นิวยอร์ค, ซิดนีย์

- คุณสุริพงษ์ ตันติยานนท์ เป็นผู้จัดการวีซ่าประเทศไทย ได้มาบรรยายเกี่ยวกับการใช้ชีวิตใน1วันแบบไร้เงินสด และการแก้ปัญหา ระบบขนส่ง
- คุณไมค์กล่าวว่า กรุงเทพติด1ในเมืองต้นๆของนักท่องเที่ยวทั่วโลก แต่เวลาขึ้นรถไฟฟ้าทีนึงต้องไปหยอดเหรียญ ไม่เท่าไหร่ ถ้าเป็นแบงค์ต้องไปต่อคิวแลกเป็นเหรียญอีกที เป็นแบบนี้ทุกคนก็เสียเวลาน่าดู
- ทางวีซ่าก็พยามยามร่วมมือกับทั้งภาครัฐและเอกชนมาช่วยพัฒนาระบบต่างๆให้สะดวกยิ่งขึ้น
- ตั้งแต่เปิดตัวระบบ ในเดือนเมษายน 2562 ที่ผ่านมา ผู้ใช้ระบบ Contactless ใน Singapore Mass Transit ทะลุยอด 1 ล้าน transaction ภายในเวลาแค่ 10 วัน! ซึ่งแสดงถึงความพร้อมและความต้องการของชาวสิงค์โปร์ เพราะความสะดวกสบายในการเดินทาง โดยไม่ต้องมีบัตรหลายๆใบในกระเป๋าเพื่อขึ้นรถไฟอีกต่อไป
- จากผลสำรวจพฤติกรรมการใช้เงินของคนไทยของวีซ่า (Consumer Payment Attitude Survey 2018) พบว่าคนไทย 64% เห็นว่าการใช้จ่ายผ่านบัตรธนาคารของตน (debit & credit) สะดวกสบายกว่าการซื้อบัตรรถไฟและจ่ายเงินแยกสำหรับการใช้การขนส่งสาธารณะ
- โดย 91% สนับสนุนการใช้บัตร contactless สำหรับการเดินทางระบบสาธารณะ
- นอกจากนี้ ยังช่วยประหยัดต้นทุนสำหรับผู้ประกอบการขนส่งโดยจากรายงานของ Cashless Cities ของวีซ่า ผู้ประกอบการขนส่งใช้จ่ายเฉลี่ย 14.5 เซนต์ต่อดอลลาร์ ทุกดอลลาร์ที่เก็บจากเงินสด เมื่อเทียบกับ 4.2 เซนต์ต่อดอลลาร์ สำหรับการใช้จ่ายขนส่งมวลชนผ่าน Contactless

- และท่านถัดมา เป็นคุณ Chris Clark ประธานบริหารวีซ่า ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
- คริส เล่าถึงประวัติ Visa
- โดยแต่ก่อน Visa ไม่ได้ใช้ชื่อนี้ เมื่อก่อนชื่อ BANKAMERICARD แต่เปลี่ยนชื่อเพื่อให้จำง่าย (นี่แรกๆก็สับสนว่าขอวีซ่าไปประเทศอื่นไปขอที่ธนาคารได้เปล่าหว่า)
- คือชื่อ Visa เป็นคำที่ทุกภาษาออกเสียงได้หมด มันเลยจำง่าย โดยถ้าดูสี น้ำเงิน ขาว เหลือง (รูปซ้ายล่าง) อันนั้นคือบัตรรูปแบบเก่า
- ซึ่งจริงๆแล้วบัตรเครดิตก็เกิดมาตั้ง60กว่าปีแล้ว แต่แรกๆก็แน่นอนไม่เวิร์คเพราะเอาบัตรไปให้คนใช้ คนก็รูดซื้อแล้วก็ไม่จ่ายคืน
- โดยระบบก็มีการพัฒนามาเรื่อยๆ จนตอนนี้มีบัญชี Visa ประมาณ 3,400ล้านบัญชี ครอบคลุมกว่า 200ประเทศ
- โดย Visa ได้ร่วมกับธนาคารทั่วโลกกว่า 15,550แห่งเลยทีเดียว
- ซึ่งแน่นอน Visa มีคู่แข่ง แต่เขาบอกว่าไม่ใช่บริษัทอื่นๆนะ แต่เป็นเงินสด!! ต่างหาก ฟังแล้วซิ๊ดเลย เพราะตอนนี้คนไทยอย่างน้อย10ล้านคนก็จ่ายเงินผ่านมือถือเป็นแน่นอน

- ถัดมาคือคุณ Mandy Lamb เป็นผู้จัดการกลุ่มวีซ่า ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
- เธอมาเล่าเกี่ยวกับสถิติการใช้จ่ายของคนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
- ซึ่งสถิติกล่าวว่าคนในภูมิภาคนี้มีสมาร์ทโฟนมากกว่า 300ล้านเครื่อง และ 72% ก็ช้อปออนไลน์ผ่านมือถือ
- และคาดว่าในอีก5ปี ยอดจะสูงขึ้นเป็น80% และโตกว่า3เท่า อีก 7ปี
- แหม่ (อันนี้เสริมเอง) ก็9.9 ที่ผ่านมายอดช้อปออนไลน์ของไทยทำลายสถิติสูงสุด คนละ 10ออเดอร์บ้าง 20ออเดอร์บ้าง #ช้อปเก่ง #FlashSaleเก่ง #รับโค้ดส่วนลดเก่ง

- คุณ Tasneen Padiath เป็นหัวหน้าฝ่าย Fintech Engagement & Delivery ของวีซ่า
- ไม่ได้จะขิงแต่ความจริง แอปต่างๆที่เราใช้กันผูกบัตรเครดิต จ่ายเงิน ก็ล้วนแล้วแต่เป็นพาร์ทเนอร์กันหมด
- ง่ายๆเลย อย่างแอปสั่งอาหาร เวลาจะจ่ายเงินที ต้องไปหาเลขบัญชีมาโอนกันให้ยุ่งยาก ตัดผ่านบัตรเลยแบบทุกวันนี้สะดวกดี ซึ่งระบบหลังบ้านก็เป็นความร่วมมือกับวีซ่า
- จะเห็นว่า ไม่ว่าStart up ตัวเล็กหรือตัวเป้งๆ กระทั่ง องค์กรขนาดใหญ่ก็ล้วนแล้วแต่ เป็น พาร์ทเนอร์ เช่น Apple Pay, Google Pay, LinePay, GoJEK, JD Central หรือ Tokyo Olympic ก็ล้วนเป็นพาร์ทเนอร์ทั้งนั้น จะได้ไม่ต้องไปเสียเวลาพัฒนาระบบใหม่ ต่อยอดได้เลย
- และสุดท้ายกลุ่มสื่อมวลชนก็ได้ไปเยี่ยมชมออฟฟิศ และศูนย์การเรียนรู้ของ Visa ที่สิงคโปร์ โดยได้เก็บภาพมาฝาก..
บรรยากาศออฟฟิศ และ Visa Innovation Center ที่สิงคโปร์
Facebook Comments













![[รีวิว] ใช้บัตร SCB Planet ที่ต่างประเทศ SCB Planet](https://chaitung.com/wp-content/uploads/2019/10/0-cover-218x150.jpg)


![[เกิดมาใช้บัตร] AMEX ROP โฉมใหม่ 25บาท/ไมล์](https://chaitung.com/wp-content/uploads/2025/11/IMG_1705-218x150.jpg)
![[เกิดมาใช้บัตร] วิเคราะห์ บัตรเครดิตใหม่ UOB Krisflyer คุ้มค่าขนาดไหน?](https://chaitung.com/wp-content/uploads/2024/01/UOB-Krisflyer-1-218x150.jpeg)
![[รีวิว] แลกคะแนนมานอน W New York Times Square จาก บัตร AMEX Platinum](https://chaitung.com/wp-content/uploads/2025/03/W-newyork-3-218x150.jpeg)
![[ท่องโลกแลกไมล์] ตอน ใช้สิทธิ ROP Gold ให้คุ้มที่สุด](https://chaitung.com/wp-content/uploads/2025/02/ROP-Gold1-218x150.jpeg)

