และในที่สุดหลังจากที่ได้ทนบินข้ามน้ำข้ามทะเลวนไป เลือกบินแต่เครือ Star Alliance เพื่อเก็บไมล์เข้าการบินไทย จนได้ไมล์ทะลุ 50,000ไมล์ ใน1ปี นี่คือสิ่งดีๆที่ได้จากการเป็น สถานะบัตรทองของการบินไทย
0.ส่งอีเมล์ขอ Tag ติดกระเป๋า
บินมาตั้งนาน เวลาเห็นคนติด Tag การบินไทย Gold ช่างโก้เสียเหลือเกิน
หลังจากที่สถานะเราขึ้นGold ขั้นแรกสุดเราได้อีเมล์ไปที่ ropgold@thaiairways .com
ประมาณ3อาทิตย์ เราได้จดหมายจากการบินไทยเป็นซองสีทอง ด้านในจะมีบัตร ROP Gold 1ใบ กับ Tag ติดกระเป๋า 2 อัน
1.สิทธิ Gold Upgrade 1 ครั้ง
ท่าปกติ ซื้อตั๋วชั้นประหยัด Class Q คลาสที่ถูกสุดเท่าที่อัพเกรดได้ เพื่อความคุ้มค่าเราก็เลือกเส้นทางให้ไกลสุดในตารางก็จะเป็นโซนยุโรป เช่น Bangkok-Munich class Q+ค่าอัพเกรดนู้นนี้ ราคาประมาณ66,740 บาท ได้ไมล์เอกสิทธิ 10,918 ไมล์
ทีนี้เราก็มาคิดๆดู ถ้าเราจะต่ออายุ ROP Gold เราต้องใช้ไมล์เอกสิทธิ50,000ไมล์ใน1ปีอีกรอบ เลยลองโทร จองตั๋วเพิ่ม ประกบหัวท้าย ทำเป็น 3 ทริป เริ่มตรงไหน-จบตรงนั้น
เช่นในรูป เดือนมิ.ย. Osaka-Bangkok เดือนส.ค. Bangkok-Munich-Bangkok เดือน ธ.ค. Bangkok-Osaka
ผลปรากฏ เพิ่มเงินทั้งหมด อีก 7,500บาท แต่เราจะได้ไปเที่ยวถึง3ทริป รวมถึงได้ไมล์เอกสิทธิเพิ่มจากการประกบทั้งหัวท้ายรวมเป็น 16,102ไมล์ แนะนำเวลาจองให้โทรคุยกับ Call center เช็ค Class Q และ Class upgrade มีเหลือไหม
แล้วหัวท้ายไปเริ่มและจบยังไง?
ขาไปง่ายมากแค่ซื้อตั๋ว Low cost 1ขา หรือแลกไมล์ Asiamile, British avios บิน Jal ไป 1 ขา ส่วนขากลับจะใช้วิธีเหมือนขาไปก็ได้ แต่ไหนๆจะใช้ท่ายากแล้ว แนะนำให้ดูรูปถัดไป
2.สิทธิแลกไมล์ลด 50% (3ครั้ง)
ในการเป็น ROP Gold มีอายุ2ปีนับจากวันที่เก็บไมล์ครบ โดยแต่ละปีให้สิทธิลดไมล์50% 1ครั้ง/ปีปฏิทิน
ดังนั้น สมมุติ ก.พ.2568 ได้เป็น ROP Gold จะใช้สิทธิ แลกไมล์ลด 50% ได้3ครั้ง
ครั้งที่1 : ก.พ.68-ธ.ค.68
ครั้งที่2 : ม.ค.69-ธ.ค.69
ครั้งที่3: ม.ค.70 โทรจองสิทธิสุดท้าย ได้ล่วงหน้า340วัน ยันสิ้นปี 2570
ทีนี้มาดูการแลกไมล์ท่าปกติ
ขออนุญาต คำนวณจากเส้นทางที่ส่วนตัวคิดว่าคุ้มคือ แลกไมล์ชั้นธุรกิจ โซนญี่ปุ่น,เกาหลีเป็นต้นไป ออสเตรเลีย,ยุโรป
ดังนั้น ถ้าจอง Bangkok-Tokyo/Osaka ชั้นธุรกิจ ไปกลับ ประหยัดไมล์50% ที่ 47,500 ไมล์ Bangkok-Tokyo/Osaka ชั้นหนึ่ง ไปกลับ ประหยัดไมล์50% ที่ 67,500 ไมล์ Bangkok-Munich/Oslo ชั้นธุรกิจ ไปกลับ ประหยัดไมล์50% ที่ 90,000 ไมล์ Bangkok-London ชั้นหนึ่ง ไปกลับ ประหยัดไมล์50% ที่ 125,000 ไมล์
ท่ายาก
ที่บอกว่าท่ายากอันนี้ยากนิดนึงตรงที่เราต้องหาทริปประกบ หัวท้าย และต้องเป็นที่มีที่นั่งแลกไมล์ว่างให้แลก
ตัวอย่าง Osaka-Bangkok-Munich-Bangkok-Osaka ชั้นธุรกิจ ประหยัดไมล์50% ที่ 137,500 ไมล์ Tokyo-Bangkok-London-Bangkok-Tokyo ชั้นหนึ่ง ประหยัดไมล์50% ที่ 192,500 ไมล์
และถ้าใครที่อ่านมาจากรูปที่แล้วจะเห็นว่าถ้าเราแพลนไปเที่ยวปีละ2ทริป เช่น ญี่ปุ่น1 ยุโรป1 มันก็จะลงล๊อคเป๊ะ เอาหัวญี่ปุ่นนี้ไปประกบท้ายของทริปก่อนหน้า และปีถัดไปก็เอาท้ายนี้ไปประกบหัวถัดไป
หรือถ้าบางคนอาจต้องไปที่อื่นก็สามารถดีไซน์ทริปได้เช่นกัน เช่น Singapore-Bangkok-Shanghai-Bangkok-Singapore Hongkong-Bangkok-Sydney-Bangkok-Hongkong
ทำยังไงก็ได้ให้เริ่มและจบที่เดิม ทำเหมือน Bangkok เป็นจุดแวะพัก แค่แวะนานๆหน่อยหลายๆเดือนพร้อมบินทริปถัดไป
3.โควต้าเพิ่มชื่อ Nominee ได้อีก5คน
อันนี้สำหรับคนที่เพิ่มชื่อเต็มแล้ว ในการจะเปลี่ยนชื่อ คนที่6 เป็นต้นไปต้องเสียไมล์อยู่ที่ 15,000ไมล์ต่อชื่อ เสียมาแล้วเจ็บมาก แต่พอเป็น Gold เลยได้โควต้าเพิ่มอีก5 สบายๆเลย
และ3ข้อ ข้างบนคือสิ่งที่เราคิดว่ามันดีมากจนทำให้ต้องเก็บไมล์เข้าการบินไทย ให้เป็น Gold ให้ได้ จะได้ใช้สิทธิ เอาแค่ท่าปกติก็คุ้มมากประหยัดไมล์ไปหลายแสนแล้ว
และสุดท้ายก็คือ
4.สิทธิ Star alliance Gold
-ได้เข้าเลาจน์ฟรี+ผู้ติดตาม1คน เมื่อบินสายการบินในเครือ
-ได้ฟรีโหลดกระเป๋าเพิ่ม
-กระเป๋าได้ติด Tag Gold เวลาโหลดทำให้ได้กระเป๋าไวกว่าเดิน
-ได้ขึ้นเครื่องก่อน ฯลฯ
