จุดเริ่มต้นการรีวิว ‘ชานมไข่มุก’ ครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะชอบ แต่เริ่มจากมีคนฝากซื้อชาไข่มุกไม่เอาน้ำแข็ง แล้วปรากฎว่าแก้วที่ได้มา คือถึงกับต้องอุทานว่า ‘แค่นี้หรอว่ะ’ เป็นเศษไข่มุกนอนก้น กับน้ำชานมไม่ถึงครึ่งแก้วดี ซึ่งอันที่จริงไม่ใช่ปัญหาอะไร (แค่แก้วละร้อยกว่าบาทเอง = =“) ก็ไม่ต้องกินบ่อยไง
และเนื่องจากหลายคนอาจกินไม่บ่อย เวลาไปสั่งทีนึง หวาน0 หวาน25 หวาน50 หวาน100 แล้วมันคือหวานเท่าไหร่กันแน่!!! วันนี้เลยลงทุนซื้อเครื่องวัดน้ำตาลมาด้วย
และไปดูการรีวิวในครั้งนี้กัน (ชมเบื้องหลังการถ่ายทำได้ที่นี่)
สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้
- เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอล ไว้สำหรับชั่งไข่มุก
- ถ้วยตวงปริมาตร สำหรับน้ำชานม
- เครื่องวัดน้ำตาล ซึ่งสำหรับเครื่องนี้หลายคนอาจไม่คุ้นเคย วิธีใช้ง่ายๆ แค่หยดของเหลวที่ต้องการวัดลงบนเครื่อง และเอาตามองสเกลอีกฝั่งหนึ่ง ก็จะบอกระดับน้ำตาลได้
และถ้าหากบอกเป็นตัวเลข ก็คงไม่เข้าใจว่าหวานขนาดไหน ผมเลยลองเอาสิ่งที่คุ้นเคยจำภาพความหวานได้กันเป็นอย่างดีเป็นตัวเทียบ
ถ้าหากให้น้ำเปล่า คือ 0 องศาบริกซ์ (° Brix)
เมื่อลองวัด ยาคูลท์ จะได้ระดับที่ 18 องศาบริกซ์ (° Brix)
ดังนั้นหากใครทานยาคูลท์แล้วสบายๆชิวๆไม่หวาน ก็จำเลขเอาไว้ว่าเลขประมาณ18 คือ โอเค
แต่หากใครมองว่าหวานไป ถ้าหากร้านไหนที่หวานปกติ มากกว่า18 ลองขอลดน้ำตาลลงหน่อย
และเนื่องจากไม่ใช่บล๊อครีวิวอาหาร อะไรกินไม่ได้ก็ทิ้ง (เปลืองปาก) ฮ่าๆๆ ความจริงคือค่าลดน้ำหนัก เข้ายิมแพงกว่าค่าชา ได้ไม่คุ้มเสีย ดังนั้น ตารางด้านล่างนี้จะเป็นการสรุป ทุกๆอย่างที่ไม่ใช่รสชาติ เพราะรสนิยมการกินแต่ละคนต่างกัน โดยเรียงลำดับจาก ราคาน้ำชา ต่อ ลิตร ถูกสุดไปถึงแพงสุด จะเป็นอย่างไร เชิญรับชม
เรียงลำดับ ราคาน้ำชาต่อลิตร ถูกสุดไปถึงแพงสุด
[ninja_tables id=”2009″]