ทำใบขับขี่ เสียตังค์เท่าไหร่? (ได้ชัวร์)

คงไม่มีใครบ้ามาทำรีวิวสอบ “ใบขับขี่” ซึ่งโพสนี้ใช้เวลาประมาณ2ปีในการถ่ายทำ เพราะผมรู้สึกว่าเป็นอีกหนึ่งประสพการณ์ในชีวิตที่ยากต่อการฟันฝ่า จนบางทีท้อแท้ ต้องหาหลายๆวิธีที่จะได้ใบขับขี่ จนมาเจอวิธีที่อยากแนะนำคือให้ไปเรียนโรงเรียนที่ใช้สนามสอบจริงเลย เรียนวนไปในสนามนั้นจนกระทั่งคุ้นเคย ซึ่งสำหรับคนใหม่ๆที่ไปสอบเสียเวลาสอบหลายๆครั้ง 15รอบก็มี กว่าจะคุ้นชินสนาม

ซึ่งสถานที่สอบที่ผมได้มารีวิววันนี้คือ ศูนย์สอบจตุจักร หลังจากที่อ่านใน pantip.com ก็พบว่า “เป็นศูนย์สอบที่ยากและเข้มข้นที่สุด”  T-T

ทีนี้เรามาดูกันว่ากว่าจะได้ใบขับขี่ซัก1ใบ นอกจากความพยายามแล้ว ต้องเสียเงินเท่าไหร่?

1. ค่าอบรมภาคทฤษฎี 500บาท ซึ่งสามารถประหยัดได้ แต่เสียเวลาจองคิวกับทางกรมขนส่งล่วงหน้าประมาณ3เดือน
ซึ่งในรูปเป็นจุดนึงที่สามารถมาอบรมได้ เปิดทุกวัน ตรงข้าม ม.ราชภัฏสวนดุสิต
สามารถแอดไลน์ไปดูและจองคิวได้ [popup_anything id=”1188″]

2. ค่าเรียนขับรถภาคปฏิบัติ
ขอแบ่งโรงเรียนเป็นสองแบบ
-แบบที่เปิดสอนทั่วไป ราคาประมาณ4,500บาท 14ชั่วโมง สอนทั้งเกียร์กระปุกและออโต้ ซึ่งการเรียนก็จะตามสไตล์ของแต่ละโรงเรียน เช่น ออกถนนใหญ่ หรือมีสถานที่ฝึกประจำ โดยเมื่อเวลาไปสอบวันจริงทางโรงเรียนจะมีรถให้ยืม ไม่ต้องเช่าหรือเอาไปเอง

-แบบที่เปิดสอนโดยใช้สนามของศูนย์สอบฝึก **ข้อนี้แนะนำ สำหรับคนที่อยากได้ใบขับขี่ชัวร์** คือว่าหลังจากที่ผมเรียนคอสแรกจากโรงเรียนข้างนอก (ประมาณ2รอบแล้ว) ก็ยังต้องสอบปฏิบิติถึง3รอบ ถึงจะผ่าน(แบบฟรุคๆ) ใครว่าง่ายหล่ะ ตกแต่ละรอบก็ท้อ ใครที่คิดว่าอยากให้มั่นใจแนะนำให้เรียนในโรงเรียนแบบนี้เลย ฝึกจนได้ ราคาอาจสูงกว่าแบบแรก ซึ่งข้อดีอีกข้อคือไม่ต้องเสียค่าอบรมทฤษฎี500บาทเพราะในคอสก็รวมไปแล้ว

3.ใบรับรองแพทย์ 80บาท
สำหรับคนที่ลืมเตรียมไป สามารถเดินออกมาด้านกรมขนส่งจตุจักรมีคลีนิคเปิด เน้นให้ใบรับรองแพทย์โดยเฉพาะ เพราะมีแต่คนมาต่อคิวขอใบรับรองแพทย์ ก็นับว่าสะดวกดีสำหรับคนที่ลืมพกไป

สำหรับข้อสอบข้อเขียน 50ข้อ มีเกณฑ์ คือต้องผ่าน45ข้อขึ้นไป
(และผมก็ตกเช่นกัน และต้องสอบซ่อมด้วย)
ซึ่งเมื่ออบรมภาคทฤษฎีในข้อ1. ไปแล้ว จะมีหนังสือเป็นโจทย์พร้อมเฉลยให้มานั่งท่อง หรือ สามารถโหลดแอพ มานั่งทำก็ได้ (แม้ว่าจะท่องทั้งหนังสือ และทำแอพด้วยก็ตกได้เหมือนกัน)
โหลด  [popup_anything id=”1187″]

ส่วนสอบสมรรถภาพ มี4ด่าน
1.บอกสีเหลืองเขียวแดง (ง่ายมากๆ)
2.ทดสอบความไว จำลองว่าถ้าเห็นไฟ แล้วต้องเหยียบเบรค ก็แค่มองแล้วเอาตีนไปแตะเบรค 2วิ เสร็จ
3.ทดสอบระนาบเดียวกัน อธิบายไม่ถูก แค่มองว่า แท่งสองแท่งตรงกันหรือเปล่า แล้วก็หยุด
4.มองสีเหลืองเขียวแดงจากด้านข้าง (มองยากนิดนึง)

สำหรับสอบปฏิบัติ มีทั้งหมดสามท่า

ท่าที่1 เดินหน้าถอยหลังตรงๆ (ง่ายสุด)
ท่าที่2 จอดรถริมฟุตบาท (สอบไป3รอบ)
ท่าที่3 เข้าซอง เดินหน้า-ถอยหลัง ไม่เกิน7เกียร์ (สอบไป3รอบเหมือนกัน)

ท่าที่สองและสามนับว่าหินสุดๆ สำหรับการสอบใบขับขี่

ภายใน3เดือนนับตั้งแต่วันเริ่มยื่นสอบใบขับขี่ ถ้าหากยังสอบด่านไหนไม่ผ่าน ต้องไปเริ่มข้อ1ใหม่หมด

5) ใบขับขี่ชั่วคราว 205บาท

ถ้าหากสอบปฏิบัติผ่านแล้ว จะได้ใบไปทำใบขับขี่ ชั่วคราวอายุ2ปี ราคา205บาท โดยที่สามารถเปลี่ยนเป็นใบขับขี่5ปี ได้เมื่อเวลาผ่านไป1ปีแล้ว และห้าม!!ลืมไปต่อเมื่อหมดอายุเด็ดขาด มิฉะนั้นจะกลับไปเริ่ม1ใหม่

6) ใบขับขี่5ปี 505บาท

สำหรับคนที่ถือใบขับขี่แบบชั่วคราว2ปี เมื่อถือไป1ปีแล้ว สามารถมาเปลี่ยนเป็นใบขับขี่5ปีได้

และสำหรับคนที่ถือ 5ปีและหมดอายุ ต้องนัดอบรมใหม่ แต่ไม่ต้องสอบปฏิบัติ เสียค่าบัตร505บาทเช่นกัน

7) ใบขับขี่สากล 505บาท มีอายุ1ปี

หากใครที่มีใบขับขี่ 5ปีแล้ว สามารถขอใบขับขี่สากลได้ ซึ่งจะมีเอกสารเพิ่มเติมคือ

• รูปถ่าย2นิ้ว 2รูป (??บาท)
• ใบรับรองแพทย์ (80บาท)
• สำเนาบัตรประชาชน/ใบขับขี่5ปี/passport

สรุปรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด แบ่งเป็น4แบบ

•กรณีไม่มีรถ+ขับไม่เป็น : จะต้องเสียค่าเรียน5500บาท+ค่าใบรับรองแพทย์80บาท+ค่าธรรมเนียมออกใบขับขี่505บาท รวมประมาณ6,000บาท

•กรณีไม่มีรถ+ขับเป็น : จะต้องเสียค่าใบรับรองแพทย์80บาท+ค่าเช่ารถ100บาท+ค่าธรรมเนียมออกใบขับขี่505บาท รวมประมาณ700บาท

•กรณีมีรถ+ขับไม่เป็น : จะต้องเสียค่าเรียน5500บาท+ค่าใบรับรองแพทย์80บาท+ค่าธรรมเนียมออกใบขับขี่505บาท รวมประมาณ6,000บาท

•กรณีมีรถ+ขับเป็น : จะต้องเสียค่าใบรับรองแพทย์80บาท+ค่าธรรมเนียมออกใบขับขี่505บาท รวมประมาณ600บาท

จะเห็นว่านี้เป็นราคาโดยประมาณ ซึ่งโรงเรียนขับรถอาจจะแตกต่างกันไปให้แต่ละพื้นที่ อย่างไรแล้วใครที่มีสกิลขับรถดีๆ ก็คงจะผ่านได้ไม่ยาก แต่สำหรับคนที่สอบซ่อมครั้งที่15 ครั้งที่20 ก็ขอบีบมือและเป็นกำลังใจให้ครับ

กรณีบัตรหายและรถประเภทอื่นๆ [popup_anything id=”1207″]